OpenAI ได้เปิดตัว Canvas อินเทอร์เฟซใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการทำงานร่วมกับ ChatGPT ให้เหมาะกับงานเขียนบทความและงานเขียนโค้ดที่ซับซ้อนมากขึ้น โดย Canvas ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานร่วมกับ ChatGPT ในรูปแบบที่แตกต่างจากการสนทนาแบบเดิม ๆ ในรูปแบบหน้าต่างแยกต่างหาก ซึ่งช่วยให้การจัดการโปรเจกต์ต่าง ๆ ง่ายและเป็นระบบมากขึ้น
Canvas ถูกออกแบบมาบนโมเดล GPT-4o และสามารถเลือกใช้งานได้ผ่าน Model Picker ในระหว่างช่วงการทดสอบเบต้า โดยเริ่มเปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ ChatGPT Plus และ Team ตั้งแต่วันนี้ ส่วนผู้ใช้ในกลุ่ม Enterprise และ Edu จะได้รับการอัปเดตในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ OpenAI ยังมีแผนที่จะเปิดให้ผู้ใช้แบบฟรีสามารถใช้งาน Canvas ได้ในอนาคต เมื่อบริการนี้พ้นจากสถานะเบต้าแล้ว
การใช้งาน Canvas: อินเทอร์เฟซที่ช่วยให้การเขียนและโค้ดสะดวกยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ChatGPT มีผู้ใช้งานที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งในด้านการเขียนและการโค้ดอย่างแพร่หลาย แต่การใช้ในรูปแบบแชทธรรมดาอาจไม่ตอบโจทย์เมื่อต้องการแก้ไขหรือปรับแต่งงานที่ซับซ้อน Canvas จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานรูปแบบนี้ โดยการเปิดหน้าต่าง Canvas จะทำให้ ChatGPT เข้าใจบริบทของโปรเจกต์ได้ดีขึ้น สามารถระบุโครงสร้างหรือเป้าหมายที่คุณต้องการให้ชัดเจนผ่านการเลือกและไฮไลต์ข้อความ ซึ่งช่วยให้ ChatGPT แก้ไขและปรับปรุงเนื้อหาได้อย่างแม่นยำและตรงจุดมากขึ้น
Canvas รองรับการทำงานสองโหมดหลัก ได้แก่
โหมดการเขียน (Writing Mode)
ในโหมดนี้ Canvas มาพร้อมกับปุ่มทางลัดที่ช่วยปรับแต่งและแก้ไขเนื้อหาบทความได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น- Suggest Edits: เสนอการแก้ไขและคำแนะนำแบบอินไลน์ในข้อความ
- Adjust Length: ปรับความยาวของเนื้อหาให้สั้นลงหรือยาวขึ้น
- Change Reading Level: เปลี่ยนระดับการอ่านของเนื้อหาตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาโท
- Add Final Polish: ตรวจสอบไวยากรณ์และความชัดเจนของบทความ
- Add Emojis: เพิ่มอีโมจิเพื่อสร้างความน่าสนใจและสื่ออารมณ์
โหมดการโค้ด (Coding Mode)
ในโหมดนี้ Canvas ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้กระบวนการแก้ไขและพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ เช่น- Review Code: ตรวจสอบและเสนอการปรับปรุงโค้ดในแต่ละบรรทัด
- Add Logs: แทรกคำสั่ง log เพื่อช่วยในการดีบัก
- Add Comments: เพิ่มคำอธิบายในโค้ดเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
- Fix Bugs: ตรวจหาข้อบกพร่องและปรับแก้โค้ดให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้อง
- Port to a Language: แปลงโค้ดเป็นภาษาอื่น ๆ เช่น JavaScript, Python, TypeScript, C++, และ PHP
การฝึกโมเดลเพื่อการทำงานร่วมกันใน Canvas
OpenAI ได้ฝึกโมเดล GPT-4o ให้ทำหน้าที่เสมือนเป็น "คู่คิด" ที่ช่วยในการสร้างสรรค์งานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเนื้อหาใหม่ การแก้ไขงาน หรือการให้คำแนะนำ โดยทีมวิจัยของ OpenAI ได้พัฒนาโมเดลให้สามารถ
- Trigger Canvas ได้อัตโนมัติเมื่อเจอสถานการณ์ที่ต้องการใช้งาน เช่น การเขียนบทความ หรือการดีบักโค้ด
- Generate Diverse Content: สร้างเนื้อหาที่หลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการ
- Make Targeted Edits: แก้ไขเนื้อหาเฉพาะจุดตามที่ผู้ใช้กำหนด
- Rewrite Documents: เขียนเนื้อหาใหม่ทั้งหมดเมื่อต้องการปรับโครงสร้างงาน
- Provide Inline Critique: ให้คำแนะนำแบบอินไลน์เพื่อช่วยให้การแก้ไขชัดเจนและแม่นยำขึ้น
การใช้งานในช่วงเบต้าและแผนการพัฒนาในอนาคต
ในขณะนี้ Canvas ยังอยู่ในช่วงการทดสอบเบต้า และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง OpenAI ได้วางแผนการปรับปรุง Canvas ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในด้านการทำงานและการเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ โดยในอนาคต Canvas จะถูกออกแบบให้สามารถปรับการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเขียนรายงานเชิงวิชาการ การเขียนบล็อกเชิงธุรกิจ หรือการแก้ปัญหาโค้ดที่ซับซ้อน
สรุป
การเปิดตัว Canvas ถือเป็นการยกระดับวิธีการทำงานร่วมกับ AI อย่าง ChatGPT ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการเขียนและการโค้ด ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ใน Canvas จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างละเอียดและแม่นยำกว่าเดิม เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่ต้องการการตรวจสอบและปรับแก้หลายครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้การทำงานร่วมกับ ChatGPT กลายเป็นประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการทำงานร่วมกับคู่หูที่มีความเชี่ยวชาญ