หลายคนอาจเคยสงสัยว่าทำไมเวลาเราพูดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งจู่ๆ โฆษณาเกี่ยวกับสิ่งนั้นก็โผล่มาให้เห็นในโทรศัพท์ แต่ข้อมูลล่าสุดจากการรั่วไหลทำให้เรารู้ว่า ความสงสัยนั้นอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไป
หลักฐานจาก Pitch Deck ของ Facebook ชี้ชัด
จากการเปิดเผยล่าสุด พบว่าเอกสาร pitch deck จากหนึ่งในพาร์ทเนอร์การตลาดของ Facebook แสดงให้เห็นว่า บริษัทใช้เทคโนโลยี "Active-Listening" เพื่อดักฟังบทสนทนาของผู้ใช้ แล้วนำข้อมูลนั้นไปวิเคราะห์เพื่อสร้างโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งในเอกสารนี้ Cox Media Group (CMG) ได้อ้างว่า ซอฟต์แวร์ Active-Listening ของพวกเขาใช้ AI ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล "real-time intent data" ผ่านไมโครโฟนของอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป หรือเครื่องช่วยเสมือนที่ใช้ในบ้าน
ทำไมถึงเห็นโฆษณาหลังพูดถึงเรื่องนั้น?
เอกสารนี้ยังบอกด้วยว่า ข้อมูลเสียงที่ดักฟังมานั้นจะถูกจับคู่กับข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในตลาดซึ่งสนใจซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ เช่น ถ้าคุณพูดถึงรถ Toyota หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์นั้น โฆษณาของรถยนต์รุ่นใหม่อาจจะปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Pitch Deck ยังระบุด้วยว่า CMG มีลูกค้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ เช่น Facebook, Google, และ Amazon ที่ใช้บริการ Active-Listening เพื่อทำการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
การตอบโต้ของบริษัทใหญ่
หลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย Google ได้ตัดสินใจถอดชื่อ CMG ออกจากเว็บไซต์พันธมิตรของพวกเขาทันที ขณะที่ Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) ยอมรับว่ากำลังตรวจสอบ CMG ว่ามีการละเมิดข้อกำหนดการให้บริการหรือไม่ ส่วน Amazon ยืนยันว่าไม่เคยทำงานกับ CMG ในโครงการนี้และไม่มีแผนที่จะทำ แต่ก็ย้ำว่าหากพาร์ทเนอร์การตลาดของพวกเขาละเมิดกฎ บริษัทจะดำเนินการตามความเหมาะสม ทำให้สถานะความสัมพันธ์ของ Amazon กับ CMG ยังคงไม่ชัดเจน
Active-Listening ฟังคุณได้อย่างไร?
ในเอกสารได้อธิบายถึงกระบวนการ 6 ขั้นตอนที่ซอฟต์แวร์ Active-Listening ของ CMG ใช้ในการเก็บข้อมูลเสียงจากอุปกรณ์ที่มีไมโครโฟน ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และเครื่องช่วยเสมือนภายในบ้าน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่า ซอฟต์แวร์นี้ดักฟังตลอดเวลาหรือเฉพาะในบางช่วง เช่น ระหว่างโทรศัพท์
เอกสารยังระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการใช้งานเทคโนโลยีนี้แล้ว ซอฟต์แวร์จะวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และลูกค้าของคุณเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รู้สึกว่าโฆษณาที่ปรากฏนั้นเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดคุยกับเพื่อนหรือค้นหาทางออนไลน์
ความจริงที่ซ่อนอยู่ในข้อตกลงการใช้แอป
ถึงแม้ว่าการแอบฟังผ่านอุปกรณ์จะฟังดูผิดกฎหมาย แต่ CMG อ้างในโพสต์บล็อกที่ถูกลบไปแล้วเมื่อพฤศจิกายน 2023 ว่าการฟังนั้นถูกกฎหมาย ซึ่งในข้อตกลงการใช้งานของแอปต่างๆ ที่เรากดตกลงแบบรวดเร็ว อาจมีการระบุถึงการใช้งาน Active Listening อยู่ก็เป็นได้
การเปิดเผยครั้งนี้ทำให้หลายคนที่เคยสงสัยว่าทำไมโฆษณาถึงตรงกับสิ่งที่พวกเขาพูดถึงได้รับคำตอบ แม้จะไม่ชัดเจนว่าการแอบฟังเกิดขึ้นเมื่อไรและอย่างไร แต่ข้อมูลใหม่เหล่านี้ก็ทำให้ผู้ใช้ต้องตั้งคำถามกับความเป็นส่วนตัวของตนเองมากขึ้นว่า โทรศัพท์มือถือที่เราใช้ทุกวันนั้นอาจไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือสื่อสารเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป