ถ้าพูดถึงการทำอาหารที่แม่นยำจนเสมือนกับเป็นเชฟมือโปร หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "Sous Vide" กันมาบ้างใช่ไหมล่ะ? สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับคำนี้ บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Sous Vide ว่าคืออะไร มีประโยชน์ยังไงบ้าง และทำไมมันถึงกลายเป็นเทคนิคที่นิยมในหมู่เชฟและผู้ชื่นชอบการทำอาหารระดับโปรเฟสชันแนล!
Sous Vide คืออะไร?
Sous Vide (อ่านว่า "ซูวีด") เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า "ในสุญญากาศ" ซึ่งเป็นวิธีการทำอาหารที่ใช้เทคนิคการปรุงอาหารในน้ำที่มีอุณหภูมิคงที่โดยใช้ถุงสุญญากาศ ซึ่งจะช่วยคงความชุ่มฉ่ำและรสชาติของอาหารได้เป็นอย่างดี แถมยังสามารถควบคุมความสุกของอาหารได้อย่างแม่นยำ ทำให้อาหารที่ออกมามีคุณภาพสม่ำเสมอไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ตาม
ขั้นตอนการทำ Sous Vide
การทำอาหารด้วยวิธี Sous Vide ไม่ยากอย่างที่คิด! มาดูขั้นตอนกันเลย:
- เตรียมวัตถุดิบ: เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรืออาหารทะเล ควรเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดี
- ใส่ถุงสุญญากาศ: ใส่วัตถุดิบพร้อมกับเครื่องปรุงลงในถุงสุญญากาศ และดูดอากาศออกให้หมดเพื่อปิดถุง
- ตั้งค่าอุณหภูมิ: ใช้เครื่อง Sous Vide ตั้งอุณหภูมิของน้ำให้ตรงกับความสุกที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการทำสเต็กแบบ Medium Rare ให้ตั้งอุณหภูมิที่ประมาณ 54.4°C (130°F)
- แช่น้ำ: นำถุงสุญญากาศที่เตรียมไว้แช่ลงในน้ำที่อุณหภูมิคงที่ ปล่อยให้เครื่องทำงานไปตามเวลาที่กำหนด เช่น สเต็กอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ตกแต่งและเสิร์ฟ: หลังจากครบเวลา ให้นำอาหารออกจากถุงแล้วปรุงขั้นสุดท้าย เช่น นำสเต็กไปย่างบนกระทะร้อน ๆ เพื่อให้ผิวกรอบก่อนเสิร์ฟ
ข้อดีของ Sous Vide
- ความแม่นยำสูง: สามารถควบคุมอุณหภูมิของอาหารได้อย่างแม่นยำ ทำให้อาหารสุกทั่วถึงและมีคุณภาพดีทุกครั้ง
- คงความชุ่มฉ่ำ: เนื่องจากอาหารถูกปรุงในถุงสุญญากาศ ทำให้น้ำในอาหารไม่สูญเสียออกไป จึงยังคงความชุ่มฉ่ำและรสชาติที่อร่อย
- ประหยัดเวลาและความสะดวกสบาย: หลังจากตั้งอุณหภูมิและแช่น้ำแล้ว สามารถปล่อยให้เครื่องทำงานไปเอง โดยไม่ต้องคอยควบคุมหรือพลิกอาหาร
- ปลอดภัย: เนื่องจากอาหารถูกปรุงที่อุณหภูมิคงที่และเป็นเวลานาน ทำให้สามารถกำจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้ Sous Vide
ถึงแม้ Sous Vide จะดูเหมือนเทคนิคที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรระวัง:
- อุปกรณ์และการตั้งค่า: การตั้งอุณหภูมิที่ไม่ถูกต้องหรือการใช้ถุงที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้อาหารไม่สุกตามที่ต้องการ หรืออาจส่งผลต่อคุณภาพของอาหาร
- เวลาในการทำ: การทำ Sous Vide ต้องใช้เวลาในการปรุงอาหารนานกว่าปกติ เช่น เนื้อบางชนิดอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการปรุงให้สุกอย่างทั่วถึง
สรุป
Sous Vide เป็นเทคนิคการทำอาหารที่มีความแม่นยำและช่วยคงคุณภาพของอาหารได้ดีมาก เป็นวิธีที่เชฟมือโปรหลายคนเลือกใช้ และยังสามารถนำมาใช้ทำอาหารในครัวบ้านได้ง่าย ๆ เพียงมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการทำสเต็กสุดฉ่ำ หรือการปรุงผักที่หวานกรอบ Sous Vide ช่วยให้การทำอาหารกลายเป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจขึ้น!
Sous Vide ไม่เพียงแค่ทำให้อาหารสุกได้ดีและสม่ำเสมอ แต่ยังช่วยเปิดประสบการณ์การทำอาหารในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารและอยากทดลองเทคนิคใหม่ ๆ Sous Vide อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด!