การมีแมวเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน หลายครั้งเจ้าของมักจะเผลอแบ่งอาหารคนให้แมวด้วยความรักและความเอ็นดู แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารบางอย่างที่มนุษย์สามารถกินได้กลับเป็นอันตรายร้ายแรงต่อแมวมากกว่าที่คิด การรู้ว่าอาหารอะไรที่สามารถแบ่งให้แมวกินได้บ้าง และอาหารใดที่ควรหลีกเลี่ยงจึงเป็นเรื่องสำคัญมากในฐานะเจ้าของแมว มาดูกันว่าอาหารอะไรบ้างที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อแมว รวมถึงอาหารอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต!
อาหารที่ "แมวกินได้"
เนื้อสัตว์ปรุงสุก
เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัวที่ปรุงสุกแล้วและไม่ปรุงรสใด ๆ เหมาะสำหรับแมวเพราะให้โปรตีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่แมวต้องการ แต่ควรระวังไม่ให้มีกระดูกเพราะกระดูกสามารถติดคอและทำให้ระบบทางเดินอาหารบาดเจ็บได้ปลาแซลมอนปรุงสุก
ปลาแซลมอนปรุงสุกสามารถให้ได้ในปริมาณเล็กน้อย เนื่องจากมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ช่วยบำรุงขนและผิวหนังของแมว แต่ไม่ควรให้ปลาดิบเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิและแบคทีเรียไข่สุก
ไข่ที่ผ่านการปรุงสุกจะช่วยเพิ่มโปรตีนและกรดอะมิโนที่ดีต่อสุขภาพของแมว ทั้งนี้ ห้ามให้ไข่ดิบเนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Salmonella และยังอาจมีสาร avidin ที่ขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน B ในร่างกายแมวได้ฟักทอง
ฟักทองเป็นผักที่สามารถให้แมวกินได้ในปริมาณน้อย ๆ เพราะช่วยในระบบย่อยอาหาร ทำให้แมวขับถ่ายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงที่ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกในแมวอีกด้วยแตงโม (ไม่มีเมล็ด)
ผลไม้ที่มีน้ำมากอย่างแตงโม สามารถให้แมวกินได้เล็กน้อยเพื่อความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน แต่ต้องระวังเมล็ดแตงโม เพราะสามารถทำให้แมวสำลักหรือท้องเสียได้ชีส (ในปริมาณเล็กน้อย)
ชีสสามารถให้ได้เล็กน้อย เนื่องจากมีโปรตีนและไขมันที่ช่วยบำรุงร่างกายแมว แต่ไม่ควรให้บ่อยเพราะแมวบางตัวอาจแพ้แลคโตสในนม ทำให้เกิดอาการท้องเสียบล็อกโคลี่นึ่ง
บล็อกโคลี่ที่ผ่านการนึ่งสามารถให้ได้ในปริมาณน้อย เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแมว แต่ควรสังเกตการตอบสนองของแมวหากไม่เคยให้กินมาก่อน เนื่องจากผักบางชนิดอาจทำให้แมวมีอาการแพ้ได้
อาหารที่ "ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด"
หัวหอมและกระเทียม
หัวหอม กระเทียม รวมถึงต้นหอมและกุยช่าย มีสาร thiosulfate ซึ่งทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ แม้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบได้ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตมีสาร theobromine และคาเฟอีนที่มีพิษต่อระบบประสาทและหัวใจของแมว ทำให้เกิดอาการสั่น หัวใจเต้นเร็ว อาเจียน และหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้องุ่นและลูกเกด
องุ่นและลูกเกดสามารถทำให้ไตแมวล้มเหลวได้ทันที แม้ในปริมาณที่น้อย การกินองุ่นหรือลูกเกดเพียง 1-2 เม็ดก็อาจทำให้แมวมีอาการอาเจียน ท้องเสีย หรือไม่อยากอาหารนมวัว
แมวหลายตัวขาดเอนไซม์ lactase ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน หรือท้องอืดหลังจากการดื่มนมวัว ทางเลือกที่ดีคือการใช้นมที่ไม่มีแลคโตสสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะกาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
คาเฟอีนในกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลังสามารถทำลายระบบประสาทและหัวใจของแมว ทำให้เกิดอาการกระสับกระส่าย สั่น หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์เป็นพิษร้ายแรงต่อแมว แม้เพียงการเลียเบียร์หรือไวน์เล็กน้อยก็อาจทำให้แมวเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ถั่วแมคคาเดเมีย
แมคคาเดเมียมีสารพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมว ทำให้เกิดอาการอาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น
สรุป
แม้การแบ่งปันอาหารกับแมวจะดูเป็นการแสดงความรักและความเอ็นดู แต่ต้องระวังให้ดีว่าอาหารนั้นปลอดภัยและเหมาะสมต่อสุขภาพของแมวจริง ๆ การรู้ว่าอาหารอะไรที่แมวกินได้และอาหารอะไรที่ห้ามให้กินจะช่วยให้แมวมีชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาว เจ้าของจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนที่จะให้อาหารใหม่ ๆ กับแมวเสมอ และหากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของเจ้าเหมียวที่เรารัก