อาหารคนที่แมวกินได้และอาหารที่ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด


 การมีแมวเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน หลายครั้งเจ้าของมักจะเผลอแบ่งอาหารคนให้แมวด้วยความรักและความเอ็นดู แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารบางอย่างที่มนุษย์สามารถกินได้กลับเป็นอันตรายร้ายแรงต่อแมวมากกว่าที่คิด การรู้ว่าอาหารอะไรที่สามารถแบ่งให้แมวกินได้บ้าง และอาหารใดที่ควรหลีกเลี่ยงจึงเป็นเรื่องสำคัญมากในฐานะเจ้าของแมว มาดูกันว่าอาหารอะไรบ้างที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อแมว รวมถึงอาหารอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต!


อาหารที่ "แมวกินได้"

  1. เนื้อสัตว์ปรุงสุก
    เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ เนื้อหมู เนื้อวัวที่ปรุงสุกแล้วและไม่ปรุงรสใด ๆ เหมาะสำหรับแมวเพราะให้โปรตีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่แมวต้องการ แต่ควรระวังไม่ให้มีกระดูกเพราะกระดูกสามารถติดคอและทำให้ระบบทางเดินอาหารบาดเจ็บได้

  2. ปลาแซลมอนปรุงสุก
    ปลาแซลมอนปรุงสุกสามารถให้ได้ในปริมาณเล็กน้อย เนื่องจากมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่ช่วยบำรุงขนและผิวหนังของแมว แต่ไม่ควรให้ปลาดิบเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิและแบคทีเรีย

  3. ไข่สุก
    ไข่ที่ผ่านการปรุงสุกจะช่วยเพิ่มโปรตีนและกรดอะมิโนที่ดีต่อสุขภาพของแมว ทั้งนี้ ห้ามให้ไข่ดิบเนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Salmonella และยังอาจมีสาร avidin ที่ขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน B ในร่างกายแมวได้

  4. ฟักทอง
    ฟักทองเป็นผักที่สามารถให้แมวกินได้ในปริมาณน้อย ๆ เพราะช่วยในระบบย่อยอาหาร ทำให้แมวขับถ่ายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีไฟเบอร์สูงที่ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกในแมวอีกด้วย

  5. แตงโม (ไม่มีเมล็ด)
    ผลไม้ที่มีน้ำมากอย่างแตงโม สามารถให้แมวกินได้เล็กน้อยเพื่อความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน แต่ต้องระวังเมล็ดแตงโม เพราะสามารถทำให้แมวสำลักหรือท้องเสียได้

  6. ชีส (ในปริมาณเล็กน้อย)
    ชีสสามารถให้ได้เล็กน้อย เนื่องจากมีโปรตีนและไขมันที่ช่วยบำรุงร่างกายแมว แต่ไม่ควรให้บ่อยเพราะแมวบางตัวอาจแพ้แลคโตสในนม ทำให้เกิดอาการท้องเสีย

  7. บล็อกโคลี่นึ่ง
    บล็อกโคลี่ที่ผ่านการนึ่งสามารถให้ได้ในปริมาณน้อย เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแมว แต่ควรสังเกตการตอบสนองของแมวหากไม่เคยให้กินมาก่อน เนื่องจากผักบางชนิดอาจทำให้แมวมีอาการแพ้ได้

อาหารที่ "ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด"

  1. หัวหอมและกระเทียม
    หัวหอม กระเทียม รวมถึงต้นหอมและกุยช่าย มีสาร thiosulfate ซึ่งทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ แม้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบได้

  2. ช็อกโกแลต
    ช็อกโกแลตมีสาร theobromine และคาเฟอีนที่มีพิษต่อระบบประสาทและหัวใจของแมว ทำให้เกิดอาการสั่น หัวใจเต้นเร็ว อาเจียน และหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

  3. องุ่นและลูกเกด
    องุ่นและลูกเกดสามารถทำให้ไตแมวล้มเหลวได้ทันที แม้ในปริมาณที่น้อย การกินองุ่นหรือลูกเกดเพียง 1-2 เม็ดก็อาจทำให้แมวมีอาการอาเจียน ท้องเสีย หรือไม่อยากอาหาร

  4. นมวัว
    แมวหลายตัวขาดเอนไซม์ lactase ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน หรือท้องอืดหลังจากการดื่มนมวัว ทางเลือกที่ดีคือการใช้นมที่ไม่มีแลคโตสสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

  5. กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
    คาเฟอีนในกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มชูกำลังสามารถทำลายระบบประสาทและหัวใจของแมว ทำให้เกิดอาการกระสับกระส่าย สั่น หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้

  6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    แอลกอฮอล์เป็นพิษร้ายแรงต่อแมว แม้เพียงการเลียเบียร์หรือไวน์เล็กน้อยก็อาจทำให้แมวเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หมดสติ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

  7. ถั่วแมคคาเดเมีย
    แมคคาเดเมียมีสารพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทของแมว ทำให้เกิดอาการอาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น


อาหารคนที่แมวกินได้และอาหารที่ห้ามให้แมวกินเด็ดขาด



สรุป

แม้การแบ่งปันอาหารกับแมวจะดูเป็นการแสดงความรักและความเอ็นดู แต่ต้องระวังให้ดีว่าอาหารนั้นปลอดภัยและเหมาะสมต่อสุขภาพของแมวจริง ๆ การรู้ว่าอาหารอะไรที่แมวกินได้และอาหารอะไรที่ห้ามให้กินจะช่วยให้แมวมีชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาว เจ้าของจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนที่จะให้อาหารใหม่ ๆ กับแมวเสมอ และหากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อความปลอดภัยของเจ้าเหมียวที่เรารัก