สิ้น ฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ


นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า สวธ. โดยกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ได้รับการประสานงานจากคุณบุญจิรา ตรีริยะ (ภักดีวิจิตร) ลูกสาวของนายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ-ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) ปี พ.ศ. 2556 ว่า นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร อายุ 93 ปี ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี เวลาประมาณ 15.30 น.


ขณะนี้ยังรอผลการวินิจฉัยการถึงแก่กรรมอย่างเป็นทางการ ซึ่ง สวธ. จะแจ้งกำหนดการพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมในลำดับต่อไปเมื่อได้รับข้อมูลจากทายาท


ศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือตามกฎกระทรวงกำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ได้แก่ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ 3,000 บาท และเงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน 150,000 บาท


ฉลอง ภักดีวิจิตร หรือ "อาหลอง" ของลูกหลานในวงการบันเทิง เป็นผู้กำกับหนังและละครระดับตำนาน เจ้าพ่อหนังแอ็กชัน ก่อนหน้านี้เขามีภาวะน้ำท่วมปอดและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล


อาหลองได้รับการบันทึกในกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดว่าเป็นผู้กำกับชายคนแรกของโลกที่อายุมากที่สุดคือ 90 ปี ผลงานกำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมากมาย ได้แก่ ระย้า, ดาวคนละดวง, อังกอร์ 1, ทอง 5, ล่าสุดขอบฟ้า, ฝนใต้, มาทาดอร์, อังกอร์ 2, เหล็กไหล, ฝนเหนือ, เลือดเจ้าพระยา, ชุมแพ, ทอง 9 ฯลฯ


นายฉลองเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยแรงบันดาลใจจากบิดาที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ และคุณอาที่เป็นผู้ถ่ายภาพและกำกับการแสดง โดยเขาเริ่มต้นเป็นช่างถ่ายภาพยนตร์ตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี ผลงานแรกคือภาพยนตร์เรื่อง 'แสนแสบ' จากบทประพันธ์ของไม้เมืองเดิม ซึ่งเขาได้เรียนรู้กระบวนการและเทคนิคต่างๆ ด้วยตนเองจากหนังสือคู่มือการถ่ายทำของสหรัฐอเมริกา


ด้วยพัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง นายฉลองได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระราชทาน พระสุรัสวดี ถึง 2 ปีซ้อน ในฐานะช่างถ่ายภาพยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง 'ผู้พิชิตมัจจุราช' และ 'ละอองดาว' ต่อมาเขาเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์และผู้อำนวยการสร้าง โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่กำกับคือ 'จ้าวอินทรีย์' นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา และพิสมัย วิไลศักดิ์


นายฉลองมุ่งมั่นที่จะนำภาพยนตร์ไทยเข้าสู่ตลาดภาพยนตร์นานาชาติ โดยการนำดาราต่างประเทศมาร่วมนำแสดง ทำให้เขาได้รับการยอมรับในวงการภาพยนตร์ทั่วโลก และเข้าสู่ทำเนียบผู้กำกับภาพยนตร์นานาชาติในนามของ P.CHALONG


นายฉลองให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดในการสร้างภาพยนตร์ มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ และกล้าที่จะลงทุน ผลงานภาพยนตร์ 'ทอง' ได้กลายเป็นตำนานของผู้กำกับอย่างฉลอง ภักดีวิจิตร ต่อมาเขาผันตัวมาทำงานบุกเบิกละครแนวบู๊ทางโทรทัศน์ จนมีผลงานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน


ตลอดกว่า 63 ปีในการทำงาน อาฉลองสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้กำกับและสร้างบุคลากรคุณภาพให้แก่วงการภาพยนตร์ไทย จนได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลเป๋าติงจากภาพยนตร์เรื่อง 'ทอง' ในฐานะภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิงสูงสุดจากประเทศไต้หวัน, รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตการสร้างภาพยนตร์จากสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ และรางวัลเกียรติยศ ปูชนียบุคคลแห่งวงการบันเทิงจากสตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ด


ด้วยผลงานและคุณูปการมากมาย นายบุญฉลอง ภักดีวิจิตร จึงได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ผู้กำกับ-ผู้สร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) ปี พ.ศ. 2556