หลังจากที่ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความคาดหวังและความสนใจจากประชาชนเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่ถูกขนานนามว่า "ครม.อุ๊งอิ๊ง 1" ซึ่งมีการคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงและการเข้ามาของบุคคลใหม่ในหลายตำแหน่งสำคัญ
พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมส่งชื่อรัฐมนตรี น.ส. แพทองธาร ได้กล่าวว่าจะมีการปรึกษาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อดูแลโควตาและแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งตั้งใจจะให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยล่าสุดมีรายงานข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งรายชื่อรัฐมนตรีมาแล้ว ซึ่งทำให้ภาพรวมของ ครม. เริ่มชัดเจนขึ้น
รายชื่อรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย สำหรับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล มีรายงานว่ารายชื่อรัฐมนตรีที่อาจหลุดจากคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ ประกอบด้วย:
- นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ไม่ขอรับตำแหน่ง
- นายสุทิน คลังแสง
- นายจักรพงษ์ แสงมณี
- นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ที่ไม่ขอรับตำแหน่ง
- นายเกรียง กัลป์ตินันท์
- น.ส.จิราพร สินธุไพร ซึ่งยังไม่แน่นอนว่าจะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าบุคคลใหม่ที่จะเข้าร่วม ครม. ได้แก่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล และนายสรวงศ์ เทียนทอง
พรรคพลังประชารัฐ: พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันร่วมรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันความร่วมมือกับรัฐบาล และได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้กับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ซึ่งประกอบด้วย:
- พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์
- นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เป็น รมช.สาธารณสุข
- นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์
พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีเช่นกัน ซึ่งมีการแต่งตั้งบุคคลสำคัญในหลายตำแหน่ง เช่น:
- นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย
- พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็น รมว.ศึกษาธิการ
พรรคประชาชาติและพรรคชาติไทยพัฒนา สำหรับพรรคประชาชาติและพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีของตนเองเข้าร่วม ครม. โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็น รมว.ยุติธรรม และนายวราวุธ ศิลปอาชา เป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ ตามลำดับ
สรุป ครม.อุ๊งอิ๊ง 1 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนและการเสริมทัพของหลายพรรคการเมือง เพื่อให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งคงต้องรอดูว่าการจัดทัพครั้งนี้จะนำพาประเทศไปในทิศทางใดต่อไป