นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ในงาน Vision for Thailand 2024 ที่จัดโดย NATION TV ซึ่งถือเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ที่สำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต โดยเน้นไปที่การแก้ปัญหาในระดับประเทศด้วยการบริหารที่เป็นระบบและชัดเจน
นายทักษิณระบุว่าประเทศไทยนั้นรู้ปัญหาของตนเองดี แต่กลับไม่ยอมแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เมื่อทราบปัญหาแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการแก้ไข ซึ่งจำเป็นต้องมี "เจ้าภาพ" สำหรับปัญหาแต่ละเรื่อง โดยที่นายกรัฐมนตรีใหม่ต้องมอบหมายหน้าที่ให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการดำเนินการแก้ปัญหาแต่ละด้านอย่างเป็นระบบ
หนึ่งในปัญหาที่ถูกยกขึ้นมา คือ การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยในส่วนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะต้องพูดคุยกับสมาคมธนาคารและนักซื้อหนี้ทั้งหลาย เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
อีกเรื่องที่ได้รับความสนใจคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายทักษิณกล่าวว่ามีเสียงคัดค้านจำนวนมาก อาจเนื่องจากบางคนยังไม่เข้าใจถึงประโยชน์ที่แท้จริง แต่ในความเป็นจริงแล้ว โครงการนี้ถือเป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว ประการแรก คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประการที่สอง คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีความแม่นยำและเป็นประโยชน์ทั้งประเทศ ประการที่สาม คือการเพิ่มความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีในกลุ่มคนไทย รวมถึงการเชื่อมโยงบริการภาครัฐทั้งหมดผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
นอกจากนี้ นายทักษิณยังกล่าวถึงการจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการนี้ โดยมีการเพิ่มงบประมาณปี 2567 อีก 1.22 แสนล้านบาท รวมกับงบกลางอีก 2 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 1.45 แสนล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน โดยจะให้เงินคนละ 10,000 บาทในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในทันที
และเมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม งบประมาณใหม่จะถูกใช้เพื่อคัดกรองผู้ลงทะเบียน 30 ล้านคน ว่าใครได้รับการช่วยเหลือแล้วบ้าง และจะจ่ายส่วนที่เหลือผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายทักษิณเชื่อว่าจะเป็นวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความแม่นยำและเป็นประโยชน์มากกว่าการใช้เงินสด
วิสัยทัศน์ของนายทักษิณในครั้งนี้ เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการมีเจ้าภาพในการแก้ปัญหา และการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมีความแม่นยำและยั่งยืน