ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอการพักผ่อนหรือการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หญิงสาวหลายคนกลับต้องเผชิญกับปัญหาที่ไม่ได้รับการสนใจมากพอ นั่นคือ "อาการปวดท้องประจำเดือน" ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงส่วนใหญ่ในวัยเจริญพันธุ์ แต่เมื่ออาการนี้เกิดขึ้น อาจทำให้การทำงานหรือการเรียนรู้ของพวกเธอได้รับผลกระทบอย่างมากจนต้องตั้งคำถามว่า "เราควรลางานเมื่อปวดท้องประจำเดือนหรือไม่?"
ปวดท้องประจำเดือนเกิดจากอะไร?
ปวดท้องประจำเดือน หรือที่เรียกว่า Dysmenorrhea เป็นอาการที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกในระหว่างที่มีประจำเดือน การหดตัวนี้ช่วยให้มดลูกล้างออกเนื้อเยื่อที่เป็นประจำเดือน แต่เมื่อการหดตัวนี้มีความรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องที่แรงขึ้น ซึ่งมักจะมีลักษณะเป็นการปวดที่ท้องน้อย และบางครั้งอาจแผ่ไปถึงหลังและขา
นอกจากการหดตัวของกล้ามเนื้อมดลูกแล้ว อาการปวดท้องประจำเดือนยังสามารถเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล หรือภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ อย่างเช่น Endometriosis หรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS)
ผลกระทบต่อการทำงาน
อาการปวดท้องประจำเดือนสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อการทำงาน หลายคนอาจมีอาการปวดจนไม่สามารถนั่งทำงานได้นาน ๆ หรือมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย และอ่อนเพลีย ซึ่งทั้งหมดนี้อาจทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง หรือแม้กระทั่งต้องหยุดทำงาน
งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การปวดท้องประจำเดือนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงต้องลางานมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอาการรุนแรง มีการศึกษาในประเทศเนเธอร์แลนด์ที่พบว่า ประมาณ 14% ของผู้หญิงที่ทำงานจะลางานเพราะอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างน้อยหนึ่งวันในแต่ละเดือน
ควรลางานเมื่อปวดท้องประจำเดือนหรือไม่?
การตัดสินใจว่าควรลางานหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและความสามารถในการรับมือกับอาการนั้น ๆ ถ้าคุณรู้สึกว่าอาการปวดท้องประจำเดือนทำให้คุณไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือต้องใช้ยาบรรเทาอาการบ่อยครั้ง การลางานเพื่อพักผ่อนอาจเป็นทางเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตาม การลางานเพื่อปวดท้องประจำเดือนยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับในหลายที่ แม้ว่าจะมีความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นในบางองค์กร บางบริษัทมีนโยบายให้พนักงานสามารถลางานได้ในกรณีที่มีอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือน แต่ในหลายบริษัทหรือองค์กรยังไม่มีนโยบายนี้อย่างเป็นทางการ
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ปวดท้องประจำเดือน
- การใช้ยา: ใช้ยาบรรเทาปวดที่หาซื้อได้ทั่วไป เช่น Ibuprofen หรือ Paracetamol แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเหล่านี้
- การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดินหรือโยคะสามารถช่วยลดอาการปวดได้
- การประคบร้อน: การใช้ผ้าประคบร้อนหรือแผ่นความร้อนวางบนท้องน้อยสามารถช่วยลดอาการปวดได้
- การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มมาก และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
- การพักผ่อน: นอนหลับให้เพียงพอและพักผ่อนเมื่อมีโอกาส
การปวดท้องประจำเดือนเป็นเรื่องที่ไม่ควรถูกมองข้าม แม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายผู้หญิง แต่ควรได้รับการดูแลและการยอมรับอย่างจริงจัง หากอาการนี้มีผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน การลางานเพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในบางครั้ง
กฎหมายในประเทศไทยเกี่ยวกับปวดท้องประจำเดือน
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 23 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่...) พ.ศ. ...
โดยนายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลกับคณะเป็นผู้เสนอ ได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับการลาปวดประจำเดือนว่าควรให้สิทธิแรงงานหญิงในการลาปวดประจำเดือน
โดยแยกต่างหากจากสิทธิลาป่วย เนื่องจากปัจจุบันความเจ็บปวดจากการมีประจำเดือนไม่ถูกให้ความสำคัญ ซึ่งต่างจากกรณีการเจ็บป่วยจากโรคภัยหรืออุบัติเหตุ
และหากถือเอาการลาปวดประจำเดือนเป็นการลาป่วยทั่วไป จะทำให้ลูกจ้างหญิงมีวันลาที่เกี่ยวเนื่องกับการเจ็บป่วยน้อยกว่าลูกจ้างชาย ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศในที่ทำงาน
แต่การประชุมในวาระดังกล่าวนั้นไม่ได้รับการตอบรับจากทางคณะรัฐบาลแต่อย่างใดและไม่มีการบังคับใช้หรือการดำเนินการต่อในเรื่องดังกล่าวจึงทำให้ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีมาตรการในการช่วยเหลือหรือดูแลในกรณีที่มีการปวดท้องประจำเดือนในประเทศไทยแต่อย่างใด