ประกาศมาตรการ "Dee-Delivery" ของ สคบ. ที่ให้ลูกค้าเปิดกล่องพัสดุก่อนชำระเงินเพื่อป้องกันการฉ้อโกง และกำหนดให้บริษัทขนส่งต้องถือเงินค่าสินค้าเป็นเวลา 5 วันก่อนส่งให้ผู้ขาย ก่อให้เกิดปัญหาหลายประการแก่บริษัทขนส่ง เช่น การตีกลับพัสดุ การอัดวิดีโอเปิดพัสดุ การเพิ่มภาระงาน ความเสี่ยงต่อการวิวาท และเปิดช่องว่างให้มิจฉาชีพ แหล่งข่าวจากบริษัทขนส่งรายหนึ่งชี้ว่ามาตรการนี้ทำให้บริษัทต้องรับภาระหนัก เนื่องจากต้องรับรู้และจัดทำรายละเอียดสินค้าที่อยู่ในพัสดุ รวมถึงการตีกลับสินค้าที่ไม่ตรงปกหรือที่ลูกค้าปฏิเสธ นอกจากนี้ยังทำให้พนักงานขนส่งต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทกับลูกค้า ซึ่งอาจจะเกิดช่องโหว่มิจฉาชีพมากขึ้น
การประกาศมาตรการนี้ออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการรับฟังความคิดเห็นรอบที่สองจากผู้ประกอบการ ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่บริษัทขนส่ง แหล่งข่าวระบุว่าประกาศนี้ผลักภาระให้บริษัทขนส่งมากเกินไป และเรียกร้องให้มีการปรับปรุงมาตรการเพื่อให้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
อ้างอิงจากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา หรือที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรียกว่า "มาตรการส่งดี" (Dee-Delivery) สาระสำคัญคือ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่เรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) ต้องจัดทำหลักฐานการรับเงิน และต้องถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนนำส่งเงินให้ผู้ส่งสินค้า ส่วนผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ และสามารถขอคืนสินค้าและขอเงินคืนภายใน 5 วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ต.ค. 2567 ที่จะถึงนี้