เป็นที่ถกเถียงกันมาตลอดเกี่ยวกับการวางพระพุทธรูปในรถ บางคนบอกว่าควรหันหน้าเข้ารถ ขณะที่บางคนบอกว่าควรหันหน้าออก ล่าสุด หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา ได้โพสต์คลิปตอบคำถามนี้
หมอช้างบอกว่า ไม่มีผิดหรือถูก เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อ จะหันพระออกหรือหันเข้าก็ได้ แต่โดยส่วนตัว หมอช้างชอบที่จะเห็นหน้าพระพุทธรูปเมื่อขึ้นรถมา เพราะจะรู้สึกมีสติและมีสิ่งที่ช่วยเตือนใจ อย่างไรก็ตาม หมอช้างเตือนว่า ไม่ควรวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากเกินไปจนเหมือนโต๊ะหมู่บูชา เพราะอาจเป็นอันตราย หากวางบนแอร์แบ็ก เมื่อเกิดอุบัติเหตุและแอร์แบ็กทำงาน พระพุทธรูปอาจกระเด็นออกมาและทำอันตรายได้
ดังนั้น หากต้องการมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในรถ แนะนำให้ใช้สิ่งที่มีขนาดเล็ก เช่น รูปภาพหรือผ้ายันต์ สิ่งสำคัญในการขับรถไม่ได้อยู่ที่การมีพระพุทธรูป แต่คือการขับอย่างมีสติ มือต้องจับพวงมาลัยอย่างมั่นคง เท้าควรเหยียบคันเร่งอย่างระมัดระวัง และหากเมาหรือง่วง อย่าขับรถ นี่คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการขับขี่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
การวางพระพุทธรูปในรถและการหันหน้าพระเข้าหรือออกมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ดังนี้:
การหันหน้าพระเข้ารถ
ข้อดี
- ให้ความรู้สึกสบายใจ: การเห็นหน้าพระพุทธรูปเมื่อขึ้นรถมา ช่วยให้รู้สึกมีสติและมีสิ่งที่ช่วยเตือนใจในขณะขับรถ.
- สัญลักษณ์ของความเชื่อ: ทำให้ผู้ขับรู้สึกได้รับการปกป้องและมีกำลังใจในการเดินทาง.
ข้อเสีย
- อันตรายจากการติดตั้งผิดที่: หากวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น บนแอร์แบ็ก อาจทำให้เกิดอันตรายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ.
- บังสายตา: การวางพระพุทธรูปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมอาจบังทัศนวิสัยในการขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้.
การหันหน้าพระออกจากรถ
ข้อดี
- สัญลักษณ์ในการขับไล่สิ่งไม่ดี: การหันหน้าพระออกนอกรถ บางคนเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งไม่ดีและป้องกันอุบัติเหตุ.
- เพิ่มพื้นที่ในรถ: การวางพระในตำแหน่งที่ไม่บังสายตา ทำให้มีพื้นที่และทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในการขับขี่.
ข้อเสีย
- การมองไม่เห็นหน้าพระ: ผู้ขับอาจไม่รู้สึกได้รับการปกป้องหรือไม่มีสิ่งที่เตือนใจในการขับรถ.
- ขาดความสบายใจ: สำหรับบางคน การไม่เห็นหน้าพระอาจทำให้รู้สึกไม่สบายใจและไม่มั่นใจในการขับรถ.